น้ำตาลคีโต ความหวานแบบคีโต สารให้ความหวาน คีโต แทนน้ำตาล คืออะไร
น้ำตาล มันอยู่ในกาแฟยามเช้า ขนมหวานที่เราชอบ และอาหารมากมายที่เรารับประทานทุกวัน แต่สำหรับผู้ที่กำลังดำเนินชีวิตแบบคีโตเจนิค การนำทางน้ำตาลจะซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย จะทำอย่างไรให้ได้ความหวานของชีวิตขณะที่อยู่ในคีโต? คาร์โบไฮเดรต โดยเฉพาะ น้ำตาล ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของเราเพิ่มขึ้น เมื่อร่างกายของเราตรวจพบการเพิ่มขึ้นนี้ จะปล่อยอินซูลินออกมาเพื่อจัดการกับน้ำตาลส่วนเกิน โดยแปลงเป็นพลังงานหรือเก็บไว้เป็นไขมัน อย่างไรก็ตาม น้ำตาลคีโต มีวัตถุประสงค์เพื่อลดการบริโภคคาร์โบไฮเดรตอย่างมาก ทำให้ร่างกายของเราเข้าสู่ภาวะคีโตซิส ซึ่งจะเผาผลาญไขมันเพื่อเป็นพลังงาน การใช้น้ำตาลทั่วไปจะรบกวนความสมดุลหรืออาจจะ มีอาการ หลุดคีโต ดังนั้น ตัวเลือกการให้ความหวานสำหรับ อาหารคีโต จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในการหาความหวานที่มาแทนน้ำตาลทั่วไป
แนะนำน้ำตาลคีโต หรือ สารที่ให้ความหวาน แทนน้ำตาลทั่วไป
สารให้ความหวานที่นิยมใช้ในกลุ่มอาหาร keto ได้แก่
- อิริทริทอล (Erythritol) ให้ความหวานประมาณ 70% ของน้ำตาลทราย มีแคลอรี่ต่ำมาก (0.2 กิโลแคลอรีต่อกรัม) ไม่ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลิน
- หญ้าหวาน (Stevia) ให้ความหวานประมาณ 200-300% ของน้ำตาลทราย มีแคลอรี่ต่ำมาก (0 กิโลแคลอรีต่อกรัม) ไม่ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลิน
- ไซลิทอล (Xylitol) ให้ความหวานประมาณ 70-80% ของน้ำตาลทราย มีปริมาณแคลอรีประมาณ 2.4 กิโลแคลอรีต่อกรัม ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลินเล็กน้อย
- ซูคราโลส (Sucralose) ให้ความหวานประมาณ 600-700% ของน้ำตาลทราย มีแคลอรี่ต่ำมาก (0 กิโลแคลอรีต่อกรัม) ไม่ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลิน แต่อาจส่งผลต่อแบคทีเรียในลำไส้
- น้ำตาลหล่อฮังก๊วย (Monk fruit sweetener) ให้ความหวานประมาณ 200-300% ของน้ำตาลทราย มีแคลอรี่ต่ำมาก (0 กิโลแคลอรีต่อกรัม) ไม่ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลิน
การเลือกสารให้ความหวานสำหรับการ กินคีโต ควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ในเรื่องใดบ้าง
- ความหวาน ควรเลือกสารให้ความหวานที่ให้รสหวานใกล้เคียงกับน้ำตาลทรายมากที่สุด
- แคลอรี ควรเลือกสารให้ความหวานที่มีปริมาณแคลอรีต่ำ
- ผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลิน: ควรเลือกสารให้ความหวานที่ไม่ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลิน
- รสชาติ ควรเลือกสารให้ความหวานที่มีรสชาติที่ถูกปาก
น้ำตาลคีโต มีประโยชน์ สำหรับ สายคีโต อย่างไร
- ความหวาน ควรเลือกสารให้ความหวานที่ให้รสหวานใกล้เคียงกับน้ำตาลทรายมากที่สุด
- แคลอรี ควรเลือกสารให้ความหวานที่มีปริมาณแคลอรีต่ำ
- ผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลิน: ควรเลือกสารให้ความหวานที่ไม่ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลิน
- รสชาติ ควรเลือกสารให้ความหวานที่มีรสชาติที่ถูกปาก
- ช่วยควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากน้ำตาลคีโตส่วนใหญ่มีแคลอรี่ต่ำ จึงช่วยควบคุมปริมาณแคลอรีที่ร่างกายได้รับ
- อาจช่วยป้องกันโรคต่างๆ เช่น โรคเบาหวานประเภท 2 โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง การศึกษาบางชิ้นพบว่าสารให้ความหวานบางชนิด เช่น หญ้าหวาน อาจช่วยป้องกันโรคต่างๆ เหล่านี้ได้
ข้อเสียหรือข้อควรระวังในการ รับประทาน สานที่ให้ความหวาน คีโต
ข้อเสียของน้ำตาลคีโตโดยทั่วไป
- อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง น้ำตาลคีโตบางชนิดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ท้องผูก ปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว เป็นต้น
- อาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว ยังไม่มีงานวิจัยที่ศึกษาถึงผลข้างเคียงของน้ำตาลคีโตในระยะยาว อย่างไรก็ดี น้ำตาลคีโตบางชนิดอาจส่งผลต่อสุขภาพ เช่น เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานประเภท 2 เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ เป็นต้น
ข้อเสียของน้ำตาลคีโตชนิดต่าง ๆ
- Erythritol เป็นน้ำตาลคีโตชนิดหนึ่งที่พบได้ทั่วไป มักไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียง แต่อาจทำให้ท้องอืดในบางคน
- Sucralose เป็นน้ำตาลคีโตชนิดหนึ่งที่ผ่านการสังเคราะห์ขึ้น มักไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียง แต่อาจส่งผลต่อฮอร์โมนในร่างกาย
- Aspartame เป็นน้ำตาลคีโตชนิดหนึ่งที่ผ่านการสังเคราะห์ขึ้น มักทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ หัวใจเต้นเร็ว เป็นต้น
- Stevia เป็นน้ำตาลคีโตชนิดหนึ่งที่ได้จากพืช มักไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียง
- Xylitol เป็นน้ำตาลคีโตชนิดหนึ่งที่พบได้ในผลไม้บางชนิด มักไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียง แต่อาจทำให้ท้องอืด ท้องร่วงได้ในบางคน
ถ้าหากบทความนี้มีประโยชน์รับชม หน้าถัดไป >> เมนูคีโต 7-11
อ้างอิง :
