ข้อเสียการกินคีโตการ หลุดคีโต มีผลเสียยังไงต่อร่างกาย
การกินคีโตเจนิค ไดเอท (Ketogenic diet) เป็นแนวทางการทานอาหารที่เน้นการทานไขมันชนิดดีเพิ่มขึ้นเป็นหลัก โดยมีสัดส่วนของคาร์โบไฮเดรตที่น้อยลงและโปรตีนในปริมาณปานกลาง เพื่อให้ร่างกายเกิดกระบวนการเปลี่ยนแปลงการเผาผลาญพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตไปเป็นไขมันแทน การทานอาหารคีโตทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลินลดต่ำลง จนร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันได้มากขึ้นการกินคีโตมีประโยชน์หลายประการ เช่น ลดน้ำหนัก ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด รักษาโรคเบาหวาน ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น แต่การกินคีโตและการ หลุดคีโต ก็มีผลเสียบางประการที่ต้องระวังเช่นกัน
การหลุด Keto คืออะไรและมีผลเสียอย่างไร
การหลุดคีโต (Keto break) หมายถึง ภาวะที่ร่างกายหยุดอยู่ในภาวะคีโตเจนิก เนื่องจากการรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงมากเกินไป การหลุดคีโตอาจเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เช่น รับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงมากเกินไป เช่น ขนมปัง ข้าว พาสต้า ผลไม้ น้ำผลไม้ เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป ออกกำลังกายหนักเกินไปเกิดความเครียด เมื่อร่างกายหลุดคีโต ร่างกายจะเปลี่ยนกลับมาเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตเป็นพลังงานหลักอีกครั้ง ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลินสูงขึ้น ส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น และอาจทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ท้องผูก เป็นต้น ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่ !!
ผลเสียของการกินคีโตและการ หลุดคีโต
- ผลข้างเคียงในระยะแรก ผู้ที่กินคีโตในระยะแรกอาจมีอาการต่างๆ เช่น อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ท้องผูก คลื่นไส้อาเจียน เป็นต้น อาการเหล่านี้มักหายไปเองเมื่อร่างกายปรับตัวได้
- ภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ การกินคีโตทำให้ร่างกายขับน้ำและเกลือแร่ออกมามากขึ้น จึงอาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ได้ ผู้ที่กินคีโตควรดื่มน้ำให้เพียงพอ และรับประทานอาหารที่เป็นแหล่งเกลือแร่ เช่น ผัก ผลไม้ และผลิตภัณฑ์จากนม
- ความเสี่ยงต่อโรคนิ่ว การกินคีโตทำให้ร่างกายขับแคลเซียมออกมามากขึ้น จึงอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคนิ่วได้
- ความเสี่ยงต่อโรคไต การกินคีโตอาจทำให้ไตทำงานหนักขึ้น จึงอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคไตได้
- ความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด: การกินคีโตอาจเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิด LDL (Low-density lipoprotein) ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีได้
